การเลี้ยงปล้ำวางไก่เพื่อไปตีนั้น ต้องใช้เวลาพอสมควร และอยู่กับความพร้อมของไก่แต่ละตัว เพื่อให้เคยชินกับการออกกำลังนานๆได้ เนื่องจากในสนามชน ไม่เราไม่รู้จะเจอกับไก่ที่แข็งขนาดไหน การฝึกไก่ให้ออกกำลังกาย คือ ช่วงที่ต้องสร้างจิตใจให้ไก่มีความอนทนต่อความเจ็บปวด เพราะหากเจอคู่ต่อสู้ที่กระดูกแข็ง ไก่จะทนต่อการถูกคู่ต่อสู้ตีอย่างแรงๆและบ่อยๆได้ดี สิ่งที่พิจารณาว่า”ไก่”พร้อมที่จะสามารถนำไปตีในสนามได้อย่างสมศักดิ์ศรี จะต้องพิจารณาจากสิ่งเหล่านี้ คือ
1. พิจารณาจากสภาพภายนอกของร่างกายไก่ ให้มีความพร้อม ไม่บาดเจ็บหรือมีแผล
2. ความแข็งแรงของเนื้อหนังรวมไปถึงกล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูกและข้อต่อของกระดูก มีความพร้อมที่จะถูกตีอย่างแรง มากน้อยเพียงใด หรือที่เรียกว่ากระดูกแข็งพอไหม
3. พิจารณาจากการสมบูรณ์ของระบบภายในร่างกาย เช่น มีระบบหายใจที่ดี เวลาตีหายใจได้ดีไม่มีติดขัด แม้ว่าปอดหรือหัวใจต้องทำงานหนักก็ตาม
4. สภาพจิตใจของไก่ชน ต้องมีความคึกคะนองที่จะลงในสนาม เพื่อเป็นผู้ชนะ ดังนั้นเมื่อลงในสนามมันจะต่อสู้อย่างเด็ดเดี่ยว และกล้าหาญ ไม่มีคำว่ายอมแพ้
นอกจากนี้การตัดสินใจของเจ้าของก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน แต่ต้องคำนึงถึงตัวไก่ที่จะนำมาปล้ำด้วย จะต้อง”สุดปีกสุดหาง” บางคนเอาไปตีทั้งที่มีขนปีกอ่อน และมีขนอ่อนตามตัวประปราย พอนำไปตีขนปีกอ่อนตามตัวก็จะแตกและหลุดทำให้มีเลือดไหลไม่หยุด ทำให้เสียไก่ไปโดยใช่เหตุ
ส่วนการปั้นเชิงนั้น ก็เพื่อทำการทบทวนความจำให้ไก่ชินกับการใช้ชั้นเชิงและเพิ่มความแกร่งให้กับตัวไก่ โดยการปล้ำครั้งแรกๆควรหาไก่ยืน อาจจะตัวเล็กๆและหนักน้อยกว่า ใช้ชั้นเชิงได้เต็มที่ และพยายามหาคู่ปล้ำหลายๆแบบ ค่อยๆเพิ่มความเก่งขึ้นไป แต่อย่าให้เก่งกว่าไก่เรา เพื่อให้ไก่ของเราย่ามใจกับการต่อสู้ อยากที่จะลงสนามทุกครั้ง เมื่อแน่ใจว่าปั้นไก่เป็นที่ต้องการแล้ว ก็สามารถนำไปวัดกับไก่เก่งได้ เมื่อมีการปั้นเชิงก็ต้องมีการปั้นใจควบคู่กันไปด้วย เพื่อบังคับให้ไก่มีความมั่นใจที่จะใช้เชิงบังคับตีคู่ต่อสู้ได้ และพยายามที่จะตีคู่ต่อสู้ให้ได้ด้วย